อิมามมะฮฺดี เป็นใคร ทำไมต้องรอคอยการมาของท่านด้วย

เป็นเรื่องที่คัมภีร์แห่งฟากฟ้าทุกเล่มมีความเห็นพร้องตรงกันกล่าวคือ ต้องมีผู้มาปลดปล่อยและปรับปรุงโลกให้พบกับความยุติธรรมในยุคสุดท้าย ซึ่งเรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะสังคมมุสลิมเท่านั้นที่รอคอย แต่สังคมของพวกยะฮูดี และนัศรอนีก็รอคอยผู้ที่มีความยุติธรรมที่จะมาทำหน้าที่อันนี้เช่นกัน ดังนั้นถ้าได้ศึกษาคัมภีร์อะฮฺดิ อะตีก และอะฮฺดิญะดีด จะสามารถได้รับความกระจ่างชัดเจนมากยิ่งขึ้น
เกี่ยวกับเรื่องนี้ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวไว้ และบรรดนักฮะดีซได้เล่าต่อกันมาว่า ท่านศาสดา ได้กล่าวว่า
لولم يبقى من الدهر الاّ يوم لبعث الله رجلا من اهل بيتي يملأها عدلا كما ملئت جوزا
ถ้าหากโลกจะไม่มีเวลาเหลืออีก นอกจากเพียงวันเดียว อัลลอฮฺจะทรงให้ชายหนุ่มจากครอบครัวของฉันปากฎออกมา เพื่อทำให้โลกนี้เปี่ยมล้นไปด้วยความยุติธรรม ดังเช่นที่เคยเปี่ยมล้นด้วยความอธรรมมาแล้ว
ดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นว่า ความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องที่ว่าจะผู้มาปรับปรุงโลก เป็นที่เห็นพร้องตรงกันของศาสนาที่เชื่อในพระเจ้าองค์เดียว นอกจากนั้นยังมีริวายะฮฺจำนวนมากมายถูกบันทึกไว้ในหนังสือศิหาห์ และมะซานีดของอหฺลิซซุนนะฮฺ และบรรดานักฮะดีซ และผู้ศึกษาวิจัยทั้งสุนี และชีอะฮฺได้เขียนตำรามากมายเกี่ยวกับท่านอิมามมะฮฺดี (อ.)
บรรดาริวายะฮฺเหล่านี้ได้บอกถึงคุณลักษณะพิเศษ และสัญลักษณ์ของมะฮฺดีที่จะมาปรากฏนั้นถูกต้องตรงกับบุตรของท่านอิมามฮะซัน อัสการีย์ (อ.) ซึ่งเป็นอิมามท่านที่ ๑๑ ของชีอะฮฺ ตามพื้นฐานของริวายะฮฺดังกล่าวนั้นท่านอิมามมีชื่อเดียวกันกับท่านศาสดา (ศ็อลฯ) เป็นอิมามท่านที่ ๑๒ ของชีอะฮฺ เป็นหลานของท่านอิมามฮุซัยนฺ (อ.) บุตรท่านอิมามอะลี บิน อบีฎอลิบ (อ.)
ท่านอิมามมะฮฺดี (อ.) ประสูติเมื่อ ฮ.ศ. ที่ ๒๕๕ และได้เร้นกายไปตามพระบัญชาของพระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ยังมีชีวิตอยู่ตราบเท่าที่พระองค์ทรงประสงค์
สิ่งจำเป็นต้องกล่าวถึงคือการดำรงชีวิตที่ยาวนานเช่นนี้ ถ้าหากพิจารณาแล้วไม่หน้าที่จะเป็นไปได้ ในโลกทัศน์ของวิชาการนั้นยอมรับในเรื่องการมีอายุยืนแบบเป็นไปตามธรรมชาติของมนุษย์เช่นกัน อัล-กุรอานได้กล่าวถึงการมีอายุยืนของคนในอดีตอย่างเช่นท่านศาสดานูห์ (อ.) อัล-กุรอานกล่าวว่า
وَلَقَدْ أَرْسَلْنَا نُوحًا إِلَى قَوْمِهِ فَلَبِثَ فِيهِمْ أَلْفَ سَنَةٍ إِلَّا خَمْسِينَ عَامًا
และแน่นอนเราได้ส่งนูห์ไปยังหมู่ชนของเขา และได้อยู่ร่วมกับพวกเขาหนึ่งพันปียกเว้นห้าสิบปี
อัล-กุรอานกล่าวท่านศาสดายูนุสว่า
فَلَوْلَا أَنَّهُ كَانَ مِنْ الْمُسَبِّحِينَلَلَبِثَ فِي بَطْنِهِ إِلَى يَوْمِ يُبْعَثُونَ
หากว่าเขามิได้เป็นคนหนึ่งในหมู่ผู้แซ่ซ้องสดุดีแล้วแน่นอน เขาจะอยู่ในท้องปลาจวบจนกระทั่งวันฟื้นคืนชีพ
เช่นเดียวกันท่านเคฎร์ และท่านศาสดาอีซา (อ.) ตามดำรัสของอัล-กุรอาน และการเห็นพร้องตรงกันของมุสลิมทั้งหลายปัจจุบันท่านทั้งสองยังมีชีวิตอยู่และดำรงชีพของท่านไปตามพระบัญชาของอัลลอฮฺ (ซบ.) ฉะนั้นเรื่องการมีอายุของคนไม่มีความขัดแย้งกัน ถ้าสิ่งนั้นเป็นพระประสงค์ของพระองค์ย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ