ทำไมชีอะฮ์เชื่อว่าท่านอะลี บุตร อบูฏอลิบจึงได้เป็นวะศีย์และตัวแทนของท่านศาสดา (ศ็อลฯ)

ดังที่กล่าวไปแล้วว่าชีอะฮฺ นั้นมีความเชื่อเรื่องการแต่งตั้งตัวแทนของท่าานศาสดา (ศ็อลฯ) ก่อนสิ้นพระชนม์ และยังเชื่ออีกว่าบรรดาอิมามผู้เป็นตัวแทนของท่านศาสดานั้นอยู่ในฐานะภาพเดียวกันกับท่านศาสดา หมายถึงท่านศาสดาได้รับการแต่งตั้งจากอัลลอฮฺ(ซบ.)ตัวแทนของท่านก็ต้องได้รับการแต่งตั้งจากพระองค์เช่นเดียวกัน
ประวัติการใช้ชีวิตของท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้ยืนยันเรื่องนี้ไว้อย่างดี เพราะท่านศาสดาได้ทำการแต่งตั้งให้ท่านอะลีเป็นตัวแทนของท่านในวาระต่างมากมายอาทิเช่น
๑. เริ่มต้นการบิอฺษัต (การแต่งตั้งศาสดา) ในเวลานั้นพระองค์อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงมีบัญชาให้ท่านศาสดาเชิญชวนญาติพี่น้องที่สนิท ตามความหมายของโองการที่ว่า
(وَأَنذِرْ عَشِيرَتَكَ الْأَقْرَبِينَ)
จงตักเตือนวงศาคณาญาติที่ใกล้ชิดของเจ้าให้พวกเขายอมรับและเลื่อมใสในพระเจ้าองค์เดียวเมื่อพวกเขาได้มากันพร้อมหน้าท่านศาสดา(ศ็อลฯ)จึงประกาศว่า ใครก็ตามได้ช่วยเหลือฉันในภารกิจดังกล่าว เขาจะได้เป็นวะศีย์และเป็นตัวแทนของฉัน คำประกาศของท่านศาสดา..
فأيّكم يوازرني فى هذا الأمر على ان يكون اخي و و زيرى و خليفتى و وصيي فيكم
บุคคลใดได้ช่วยเหลือฉันในภารกิจดังกล่าวเขาจะได้เป็นพี่น้องของฉัน ตัวแทนของฉัน ค่อลิฟะฮฺของฉันและเป็นวะศีย์ของฉันในหมู่พวกท่าน
ในที่นั้นมีอยู่เพียงคนเดียวที่ตอบรับคำประกาศเชิญชวนของท่านศาสดาคือท่านอะลี(อ.)บุตรของท่านอบูฏอลิบ หลังจากนั้นท่านศาสดาจึ่งได้หันไปทางกลุ่มเครือญาติพร้อมทั้งกล่าวว่า
انّ هذا اخي ووصيي و خليفتي فيكم فاسمعوا له و أطيعوه
นี่คืออะลีบุตรของอบูฏอลิบ เขาเป็นพี่น้องของฉัน เป็นวะศีย์และ เป็นค่อลีฟะฮฺของฉันในหมู่พวกท่าน จงเชื่อฟังและปฏิบัติตามเขา
๒. สงครามตะบูก ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวกับท่านอะลี (อ.) ว่า
أما ترضى أن تكون منّى بمنزلة هارون من من سى الاّ أنّه لا نبيّ بعدى
เจ้าไม่พอใจดอกหรือ ที่เจ้ากับฉันอยู่ในฐานะเดียวกันกับฮารูนและมูซา นอกเสียจากว่าจะไม่มีนบีภายหลังจากฉันอีก
ฐานะของท่านฮารูนคือ เป็นวะศีย์และเป็นตัวแทนโดยตรงของท่านศาสดามูซา (อ.) ท่านอะลี (อ.) เช่นกันเป็นค่อลิฟะฮฺ และเป็นตัวแทนโดยตรงของท่านศาสดา (ศ็อลฯ)
๓. ปี ฮ.ศ.ท ๑๐ เมื่อท่านศาสดา (ศ็อลฯ) เดินทางกลับจากการทำหัจญ์ครั้งสุดท้าย (หัจญะตุลวะดา) เมื่อมาถึงยังสถานที่หนึ่งนามว่า ฆ่อดีรฺคุม ท่านได้ประกาศท่ามกลางฝูงชนจำนวนมากมายขณะนั้น แต่งตั้งให้ท่านอะลี (อ.) เป็นตัวแทนปกครองบรรดามุสลิมีน และมุอฺมินทั้งหลายโดยกล่าวว่า
من كنت مولاه فهذا على مولاه
ใครก็ตามที่ฉันเป็นผู้ปกครองเขา ดังนั้นอะลีก็เป็นผู้ปกครองเขาด้วย
ประเด็นสำคัญจะสังเกตเห็นว่าท่านศาสดาได้เริ่มกล่าวเทศนาโดยกล่าวว่า
ألست أولى بكم من أنفسكن
ฉันนั้นไม่ได้ดีไปกว่าตัวของพวกเจ้าดอกหรือ ? ซึ่งบรรดามุสลิมทั้งหลายที่อยู่ ณ ที่นั้นได้กล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า ใช่ ท่านนั้นดีกว่าชีวิตของพวกเรา เมื่อเป็นเช่นนี้จุดประสงค์ของคำว่า เมาลา ที่ท่านศาสดา (ศ็อลฯ) ได้กล่าวนั้นหมายถึง ฐานะภาพที่สูงส่งกว่า เป็นผู้มีการเลือกสรรที่สมบูรณ์เหนือบรรดามุอฺมินทั้งหลาย ซึ่งตำแหน่งนั้นท่านศาสดาได้พิสูจน์ให้เห็นว่ามันเป็นของท่านอะลีเช่นกัน และท่านหัซซาน บิน ษาบิต ได้ถ่ายทอดเหตุการณ์ประวัติศาสตร์แห่งฆ่อดีรฺในวันนั้นไว้เป็นบทกลอนว่า
يناديهم يوم الغدير نبيّهم بخم واسمع بالرّسول مناديا
فقال فمن مولاكم ونبيكم فقالوا ولم يبدوا أهناك التّعاميا
ألهك مولانا و انت نبيّنا ولم تلق منّا فى الولاية عاصيا
فقال له:قم يا على فأنّني رضيتك من بعدى اماما وهاديا
فمن كنت مولاه فهذا وليّه فكونوا له اتباع صدق مواليا
هناك دعا: اللهم وال وليه وكن للذى عادى عليا معاديا
ได้ร้องเรียกพวกเขาในวันฆ่อดีรฺโดยศาสดาของพวกเขา ณ คุม และได้ฟังท่านศาสดากล่าวเทศนา
ท่านกล่าวว่า ใครเป็นผู้ปกครองและเป็นนบีของเจ้า ? พูดว่า ณ ที่นี้ไม่มีใครเคยเป็นผู้ปกครองเรา
พระเจ้าของท่านคือผู้ปกครองและท่านคือนบีของเรา และจะไม่พบผู้ใดที่ปฏิเสธวิลายะฮฺของท่าน
ดังนั้นท่านได้บอกเขาว่า ลุกขึ้นเถิด โอ้อะลี แท้จริงฉัน จะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นอิมามผู้นำทางหลังจากฉัน
ใครก็ตามที่ฉันเป็นผู้ปกครองเขาและนี่คือผู้ปกครองเขา พวกเจ้าจงปฏิบัติตามเขาผู้ปกครองที่สัจจริง
ณ ที่นั้นท่านได้ดุอาอฺว่า โอ้อัลลอฮฺโปรดรักผู้ที่รักวะลีของเขา และโปรดเป็นศัตรูกับผู้ที่เป็นศัตรูกับอะลี
ฮะดีซฆ่อดีรฺ เป็นฮะดีซมุตะวาติรฺของอิสลาม (ถูกต้องเชื่อถือได้อย่างมั่นใจ) ซึ่งนอกเหนือจากอุละมาอ์ฝ่ายชีอะฮฺแล้ว ยังมีอุละมาอ์ฝ่ายอหฺลิซซุนนะฮฺอีกประมาณ ๓๖๐ ท่านเป็นผู้รายงานซึ่งสามารถสืบไปถึงศ่อฮาบะฮฺ ๑๑๐ ท่าน และฮะดีซดังกล่าวยังมีอุละมาอ์อิสลามถึง ๒๖ ท่าน เขียนถึงสะนัด และสายสืบของมัน
ท่านอบูญะอฺฟัรฺ ฏ็อบรีย์ นักประวัติศาสตร์ชื่อดังของมุสลิมได้รวบรวมสะนัดของฮะดีซดังกล่าวไว้ในหนังสือสองเล่มใหญ่ของท่าน และท่านผู้สนใจสามารถค้นหารายละเอียดเพิ่มเติมได้จากหนังสือ อัล-ฆ่อดีรฺ
ในที่นั้นมีอยู่เพียงคนเดียวที่ตอบรับคำประกาศเชิญชวนของท่านศาสดาคือท่านอะลี(อ.)บุตรของท่านอบูฏอลิบ หลังจากนั้นท่านศาสดาจึ่งได้หันไปทางกลุ่มเครือญาติพร้อมทั้งกล่าวว่า
انّ هذا اخي ووصيي و خليفتي فيكم فاسمعوا له و أطيعوه
นี่คืออะลีบุตรของอบูฏอลิบ เขาเป็นพี่น้องของฉัน เป็นวะศีย์และ เป็นค่อลีฟะฮฺของฉันในหมู่พวกท่าน จงเชื่อฟังและปฏิบัติตามเขา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้สนับสนุน