การคบเพื่อนและบุคคลรอบข้าง

เพื่อนนั้นมีผลกระทบอย่างมากในการดำเนินชีวิตของมนุษย์ โดยที่เราไม่อาจละเลยถึงความสำคัญของข้อนี้ได้เลย ความสำเร็จต่างๆตั้งมากมายเท่าใดแล้วที่เกิดขึ้นเนื่องจากผลของการคบเพื่อนที่ดี ความผิดพลาดและความล้มเหลวในชีวิตของคนเราตั้งมากมายเท่าใดเล่าที่เป็นผลพวงมาจากเพื่อนเลวๆ ด้วยเหตุนี้ อิสลามจึงได้เน้นย้ำอย่างมากเกี่ยวกับการกระทำความรู้จักเพื่อนและบุคคลที่เราคบหาเป็นมิตร ในเนื้อหาส่วนนี้เราจะขอกล่าวถึงคุณลักษณะต่างๆ ของเพื่อนที่ดีและเพื่อนที่เลว
เพื่อนที่ดี
ในการตอบคำถามที่ว่าเพื่อนที่ดีนั้นคือใคร? ท่านศาสดาได้กล่าวอธิบายถึงบรรทัดฐานต่างๆ ไว้ดังนี้คือ
ท่านศาสดาได้กล่าวอ้างจากท่านศาสดาอีซา ว่า อีซาได้กล่าวตอบบรรดาฮะวารียีน(ผู้ช่วยเหลือ)ซึ่งได้ถามท่านว่า เราจะคบใครเป็นเพื่อน ท่านตอบว่า บุคคลที่การพบเห็นเขาทำให้ท่านรำลึกถึงอัลลอฮ์ และคำพูดของพวกเขาจะเพิ่มพูนความรู้ของพวกเจ้า และการกระทำของพวกเขาจะคะนึงหาต่อโลกหน้า (อาคิเราะฮ์)
๑.การพบเห็นเขาทำให้ท่านรำลึกถึงอัลลอฮ์(ซ.บ)
อัลลอฮ์ได้ทรงกล่าวต่อศาสนทูตของพระองค์เกี่ยวกับบรรดาผู้ศรัทธาและบรรดามิตรสหายที่ดี ไว้เช่นนี้ว่า
และเจ้าอย่าผลักไส บรรดาผู้ทีวิงวอนต่อพระผู้อธิบาลของพวกเขาทั้งยามเช้าและยามเย็น โดยมุ่งหวังความพึงพอพระทัยจากพระองค์
และเจ้าอย่าขกับไล่บรรดาผู้(ยากจน) ที่วอนขอต่อองค์อภิบาลของพวกเขาในยามเช้า และยามเย็นโดยพวกเขามุ่งหวังต่อพระองค์(โดยบริสุทธิ์ใจ) เจ้าไม่มีหน้าที่ที่จะรับผิดชอบโดๆ จากการสอบสวน (ความประพฤติ)ของพวกนั้นเลยสักกรณีเดียวก็ตาม และพวกเขาก็ไม่ต้องรับผิดชอบจากการสอบสวน (ความประพฤติ) ของเจ้าสักกรณีเดียวก็ตาม (ดังนั้น เมื่อความเป็นจริงอย่างนั้น เจ้าก็จงเข้าไปร่วมสังคมกับคนยากจนเหล่านั้น(เถิด) แล้วเจ้าอย่าขับไล่พวกเขา อันจะเป็นเหตุให้เจ้าต้องเป็นหนึ่งจากบรรดาผู้ฉ้อฉลทั้งมวล
อันอาม ๕๓


พระองค์ยังได้ทรงตรัสอีกว่า
และเจ้าจงอดทนอดกลั้นตัวเองให้อยู่ร่วมกับบรรดาผู้ที่วิงวอน (อิบาดะฮ์) ต่อพระผู้อภิบาลของพวกเขาทั้งในยามเช้าและยามเย็น โดยเขามุ่งหวังความพึงพอพระทัยจากพระองค์
กะฟี่ ๒๘
การคบค้าสมาคมกับบรรดาบุคคล ซึ่งเมื่อมนุษย์พบเห็นเขาแล้ว ทำให้เขารำลึกถึงพระผู้เป็นเจ้านั้น จะเป็นสื่อคุ้มครองมนุษย์จากความชั่วร้ายและสิ่งที่น่าเกลียดทั้งปวง
๒.คำพูดของพวกเขาจะเพิ่มพูนความรู้ของพวกเจ้า
การคบค้าสมาคมกับผู้มีความรู้ คือ ส่วนหนึ่งจากการคบค้สมาคมทีน่ายกย่องสรรเสริญ และเป็นสิ่งที่อิสลามได้ส่งเสริม การคบค้าสมาคมกันในลักษณะเช่นนี้ จะทำให้มนุษย์ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากเพื่อนที่โง่เขลายิ่งไปกว่านั้น ยังจะเป็นสื่อทำให้มนุษย์มีความรู้ในศาสตร์และมารยาทต่างๆ
ท่านอิมามอะลี ได้กล่าวในเรื่องนี้ว่า จงคบหาเป็นมิตรกับบรรดาผู้มีสติปัญญา และนั่งร่วมกับบรรดาผู้มีความรู้
๓.การกระทำของพวกเขาจะคะนึงหาต่อโลกหน้า (อาคิเราะฮ์)
ตามบรรทัดฐานประการที่สามที่ปรากฏในหะดีษของท่านศาสดามุฮัมมัด จำเป็นที่จะต้องคบค้าสมาคมกับบุคคลที่เนื่องจากความเกรงกลัวต่อไฟนรกและโลกหน้าของเขา จึงทำให้เขาดำรงตนอยู่อย่างบริสุทธิ์จากความแปดเปื้อนในความชั่ว และด้วยเหตุนี้เองเมื่อมนุษย์พบเห็นเขาจึงทำให้รำลึกถึงวันฟื้นคืนชีพ (กิยามะฮ์) และโลกหน้า( อาคิเราะฮ์) การรำลึกถึงวันฟื้นคืนชีพ (กิยามะฮ์)คือปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ยับยั้งมนุษย์จากความชั่ว และมีบทบาทสำคัญทีสุดที่จะยับยั้งมนุษย์จากความชั่ว และมีบทบาทสำคัญในการชี้นำมนุษย์ พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงตรัสไว้ในกรุอานว่า
พวกเขา(บรรดาคนชั่ว)เหล่านั้น ไม่คาดคิดบ้างเลยกระนั้นหรือ ว่าพวกเขาจะต้องถูกทำให้ ฟื้นคืนชีพขึ้นมาใหม่ ในวัน ( แห่งการตัดสิน) อันยิ่งใหญ่
มุฏ็อฟฟิฟีน ๔-๕
จากโองการกรุอานดังต่อไปนี้ทำให้เราทราบว่า หากมนุษย์แค่เพียงคาดคิดว่ามีวันฟื้นคืนชีพ เขาก็จะยับยั้งตนจากการทำความชั่วดังกรุอานได้กล่าวว่า
แท้จริง เราได้ทำให้พวกเขาสะอาดบริสุทธิ์อย่างแท้จริง ด้วยการรำลึกถึงโลกหน้า
ซ็อด ๔๖
หากมนุษย์เราเลือกบุคคลผู้หนึ่งเป็นเพื่อน ซึ่งจากการพบเจอเขาทำให้เรารำลึกถึงโลกหน้า และยับยั้งเราจากการกระทำความชั่ว เราย่อมไม่ออกจากทางนำ ฮิดายะฮ์อย่างแน่นอน
ท่านอิมามซอดิก ได้กล่าวว่า ผู้ใดก็ตามที่เรียกร้องเชิญชวนท่านสู่สถานที่พำนักอนมั่นคงสถาพร แห่งโลกหน้า และช่วยเหลือท่านในการกระทำเพื่อมัน ดังนั้นเขาคือมิตรที่แท้ที่มีความเป็นห่วงเป็นใย
ทั้งหมดนั้นแสดงถึงลักษณะของเพื่อนที่ดีแล้ว ยังทำให้เราเห็นถึงมารยาทต่างๆ ของความเป็นเพื่อนได้ด้วยเช่นกัน
เพื่อนเลว
กรุอานได้ห้ามมวลมุสลิมจากการคบหาเป็นมิตรกับบุคคลต่างๆดังต่อไปนี้
๑.บรรดาผู้ปฏิเสธ
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่ายึดเอาบรรดาผู้ปฏิเสธมาเป็นมิตรสนิท
นิซาอ์ ๑๔๔
๒. ชาวยะฮูดีและชาวนัศรอนี
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่ายึดเอาบรรดาชาวยะฮูดีและชาวนัศรอนีมาเป็นมิตร เพราะพวกเขาต่างเป็นมิตรสนิทซึ่งกันและกัน
มาอิดะฮ์ ๕๑
๓.บรรดาศัตรูของพระผู้เป็นเจ้า
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่ายึดเอาบรรดาศัตรูของข้าและศัตรูของพวกเจ้ามาเป็นมิตรสนิท
มุมตะฮินนะฮ์ ๑
๔.บรรดาผู้ดูถูกเหยีดหยามศาสนา
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่ายึดเอาบรรดาผู้ซึ่งได้ยึดเอาศาสนาของพวกเจ้ามาเป็นสิ่งเย้ยหยันและเป็นเครื่องเล่น มาเป็นมิตรสนิท
มาอิดะฮ์ ๕๘
๕.บรรดาผู้ถูกโกรธกริ้ว
โอ้บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลายพวกเจ้าจงอย่าผูกมิตรต่อกลุ่มชนทีอัลลอฮ์ทรงโกรธกริ้วพวกเขา
มุมตะฮินนะฮ์ ๑๓
๖.บรรดาผู้ที่เผอเรอจากการรำลึกถึงอัลลอฮ์
และจงอย่าเมินสายตาของเจ้าไปจากพวกเขา(บรรดาผู้ที่วิงวอนและนมัสการต่อพระผู้เป็นเจ้าทั้งยามเช้าและยามเย็น)โดยเจ้ามุ่งหวังสิ่งประดับในชีวิตแห่งโลกนี้ และเจ้าจงอย่าเชื่อฟังผู้ที่เราได้ทำให้หัวใจของพวกเขาเผอเรอจากการรำลึกถึงเรา
กะฟี่ ๒๘
โองการเหล่านี้ทำให้เราเข้าใจได้ว่าไม่เป็นที่อนุญาติสำหรับมุสลิมที่เขาจะแสดงออกถึงความเป็นมิตรและคบค้าสมาคมกับใครก็ได้ตามที่เขาปราถนา
ท่านอิมามซัจญาด กล่าวว่า โดยอ้างอิงถึงโองการที่ ๖๘ ของซูเราะฮ์อันอาม ไว้เช่นนี้ว่า มิใช่ว่าท่านจะสามารถพูกมิตรกับใครก็ได้ตามที่ท่านปราถนา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้สนับสนุน