การอิจฉาริษยา

ความริษยาเป็นเป็นคุณลักษณะที่ชั่วร้ายและเป็นบาปใหญ่ และสิ่งทีสังคมไม่ยอมรับ อันสร้างให้เกิดวาดระแวงในหมู่ประชาชน ดังจากกรุอาน บาปแรกที่เกิดขึ้นบนหน้าแผ่นดินคือ การอิจฉาริษยา ครั้งแรกเกิดขึ้นในเหตุการณ์ ที่อิบริสเกิดความอิจฉาในตัวท่านศาสดาอาดัม และเป็นเหตุให้ท่านศาสดาต้องออกจากสวรรค์ เหตุการณ์ทีสองคือการอิจฉาของกอบีลต่อฮาบีลและนำไปสู่การสังหาร และนี้คือการสังหารครั้งแรกบนหน้าแผ่นดิน จนถึงปัจจุบันความชั่วเช่นนี้มีปรากฎในลูกหลานนบีอาดัมสืบต่อมา
อิจฉาคือ การปราถนาที่จะเห็นผลประโยชน์หรือความจำเริญ(อัลลอฮ์ซ.บ ทรงประทานให้)ถูกพรากไปจากผู้อื่น ไม่ว่าความจำเริญนั้นเป็นวัตถุ หรือ จิตรวิญญาน
อิจฉามี สี่ แบบด้วยกัน
๑. ปราถนาที่จะเห็นผลประโยชน์หรือความจำเริญถูกพรากไปจากผู้อื่น โดยที่มิได้หวังให้ประโยชน์หรือความจำเริญเข้ามาสู่ตัว
๒. ปราถนาที่จะเห็นผลประโยชน์หรือความจำเริญถูกพรากไปจากผู้อื่น โดยที่มีความหวังให้ประโยชน์หรือความจำเริญนั้นเข้ามาสู่ตัว
๓. ไม่ได้มีความหวังให้ประโยชน์หรือความจำเริญของเขาเข้ามาสู่ตัว แต่มีความปราถนาที่จะมีเหมือนดังกับเขา หากเขายังไม่สมหวัง คนอื่นก็อย่าได้สมหวัง
๔. ปราถนาที่ได้รับผลประโยชน์หรือความจำเริญเช่นเดียวกับเขา แต่มิได้หวังให้ประโยชน์หรือความจำเริญถูกพรากจากผู้อื่น เรียกว่า ฆิบตะฮ์
จากข้อหนึ่ง – สาม เป็นการอิจฉาที่น่าตำหนิ แต่ข้อที่สี่เป็นการอิจฉาที่ปฎิบัติได้ และนำไปสุ่การพัฒนาจิตวิญญานและจริยธรรมของมนุษย์เพราะทำให้มนุษย์เกิดความพยายามขึ้น
ดังหะดีษของท่านอิมามซอดิก อ กล่าว่า มุอมินมี ฆิบตะฮ์ แต่ไม่มีฮาซัด ( อิจฉา) ส่วนมุนาฟิกมี ฮาซัด ( อิจฉา)แต่ไม่มีฆิบตะฮ์

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้สนับสนุน