ความประเสริฐของอัลกุรอานในมุมมองของฮะดิษ

1. ท่านศาสนทูต (ศ็อลฯ) กล่าวว่า “ทุกครั้งที่พวกท่านตกอยู่ในห้วงแห่งความชั่วร้าย อาทิ ความชั่วร้ายที่มาจากความมืดมน ดังนั้นพวกท่านจงยึดอัลกุรอานไว้เถิด แท้จริงอัลกุรอานให้ความช่วยเหลือกับทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ และใครก็ตามที่พบกับข้อขัดแย้งและต้องการข้อเท็จจริง เขาผู้นั้นก็จะได้รับทางนำ และใครก็ตามที่ยึดอัลกุรอานเป็นทางนำ ผู้นั้นจะได้รับสวนสวรรค์ และผู้ใดก็ตามที่ผินหลังให้กับอัลกุรอาน และไม่ปฏิบัติตามอัลกุรอาน หนทางของพวกเขาคือไฟนรก และแท้จริงอัลกุรอานคือทางนำที่ดีที่สุดของแนวทางทั้งหลาย”
อัลกุรอานเป็นคัมภีร์ที่อรรถาธิบายเรื่องราวต่าง ๆ ไว้อย่างสมบูรณ์ ทั้งรูปลักษณ์ภายนอกและภายใน ซึ่งภายนอกนั้น คือ บทบัญญัติและหลักการจากพระผู้เป็นเจ้า สำหรับภายในคือ วิชาการที่ลึกซึ้ง อัลกุรอานมีรูปลักษณ์ภายนอกที่สวยงาม และมีรูปลักษณ์ภายในที่ลึกซึ้ง อัลกุรอานเปรียบเสมือนดวงดาวที่ส่องสว่างทางนำจากพระผู้เป็นเจ้า และเหนือจากดวงดาวนี้ ยังมีดวงดาวอื่นที่มาเพื่อเผยแผ่บทบัญญัติแห่งพระองค์ นั่นก็คือ บรรดาอิมามมะอ์ศูม (อ.) เพราะบรรดามะอ์ศูม (อ.) เป็นศูนย์รวมแห่งวิชาการ ความมหัศจรรย์ของอัลกุรอานไม่สามารถคำนวณนับได้ และปาฏิหาริย์ของอัลกุรอานก็ไม่มีวันล้าหลังเช่นกัน อัลกุรอานเป็นแสงสว่างแห่งทางนำ และรัศมีแห่งวิทยปัญญาที่ประจักษ์ชัด ชี้นำหนทางแห่งการอภัยโทษให้กับผู้ที่แสวงหาหนทางแห่งการอภัย ดังนั้นจงศึกษาอัลกุรอาน และเปิดใจในการศึกษาแสงสว่างแห่งทางนำ เพื่อให้รอดพ้นจากหนทางแห่งความหายนะและหลงผิด แท้จริงความคิดที่นำมาซึ่งความมืดบอดแห่งชีวิตและความมืดมนแห่งความเขลา จะถูกขจัดให้หมดสิ้นด้วยกับรัศมีแห่งทางนำ ดังนั้นจงกระทำความดีงามด้วยความบริสุทธิ์ใจเถิด และจงอย่าใส่ร้ายซึ่งกันและกัน2. มีกล่าวไว้ในฮะดิษอีกบทหนึ่งว่า “ อัลกุรอานคือทางนำเมื่อตกอยู่ในห้วงแห่งความหลงผิด อัลกุรอานคือคำอรรถาธิบายในห้วงแห่งความเขลา อัลกุรอานฉุดรั้งให้พ้นจากความผิดบาป อัลกุรอานคือรัศมีในห้วงแห่งความมืดมน อัลกุรอานอรรถาธิบายสิ่งอุตริทั้งหลาย อัลกุรอานปกป้องให้พ้นจากความหายนะ อัลกุรอานชี้ทางนำแก่ผู้หลงผิด อัลกุรอานคือสิ่งชี้แจงความความขัดแย้งทั้งหลาย อัลกุรอานคือทางนำแห่งดุนยาสู่อาคิเราะฮ์ ความสูงส่งแห่งศาสนาของพวกท่านสมบูรณ์อยู่ในอัลกุรอาน และผลลัพธ์ของผู้ผินหลังให้อัลกุรอานเป็นสิ่งใดมิได้เลย นอกเสียจากไฟนรก”3. อิมามศอดิก (อ.) กล่าวว่า “พระผู้เป็นเจ้าทรงประทานคัมภีร์อันประเสริฐยิ่งให้กับพวกท่าน เป็นคัมภีร์ที่สัจจะยิ่งต่อสัญญาที่ให้ไว้ อัลกุรอานได้แจ้งข่าวและเหตุการณ์ทั้งในอดีต ปัจจุบันและอนาคต หรือแม้แต่เรื่องราวแห่งชั้นฟ้าและแผ่นดิน หากมีคนใดมีความรู้ และบอกกล่าวพวกท่านถึงเรื่องราวอันเร้นลับและวิชาการที่ไร้จุดจบของคัมภีร์อัลกุรอานนั้น พวกท่านต้องประหลาดใจอย่างแน่นอน”4. จากสายรายงานที่น่าเชื่อถือ (มุตะวาติร) รายงานว่า ท่านศาสนทูต (ศ็อลฯ) กล่าวว่า “ฉันจะจากไปโดยทิ้งสิ่งสองสิ่งไว้ให้กับพวกท่าน สิ่งหนึ่งคือ คัมภีร์แห่งพระผู้เป็นเจ้า คือสายเชือกที่ประทานจากฟากฟ้ามายังโลกมนุษย์ และอีกสิ่งหนึ่งคือ ลูกหลานและวงศ์วานของฉัน ดังนั้นจงดูเถิดว่าพวกท่านจะฝ่าฝืนฉันในเรื่องทั้งสองอย่างไรบ้าง”

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผู้สนับสนุน